2562
โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ คิมิตสึ ที่ตั้งอยู่ที่เมืองคิมิตสึ จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น มีขนาดกำลังการผลิตรวม 33.50 เมกะวัตต์ (40.41 เมกะวัตต์ติดตั้ง) และเป็นโครงการที่ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า จากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับ TEPCO Energy Partner, Inc. (“TEPCO Energy Partner”) เป็นระยะเวลา 20 ปี ในอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ feed-in tariff (FIT) หน่วยละ 36 เยน นับจากวันที่เริ่มดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ได้ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (“COD”) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 มีมติอนุมัติดังนี้
- อนุมัติการเพิ่มหุ้นจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 1,483,724,299 หุ้น หรือ 370,931,074.75 บาท เพื่อรองรับ การจ่ายหุ้นปันผล ดังนั้นจากหุ้นจดทะเบียนเดิม 7,418,621,493 หุ้น หรือ ทุนจดทะเบียนเดิม 1,854,655,373.25 บาท มูลค่าหุ้นละ 0.25 บาท เป็นหุ้นจดทะเบียนใหม่ 8,902,345,792 หุ้น หรือ ทุนจดทะเบียนใหม่เท่ากับ 2,225,586,448.00 บาท มูลค่าหุ้นละ 0.25 บาท โดยดำเนินการเพื่อทุนจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562
(เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 บริษัทฯ ได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หลังจากจัดสรรหุ้นปันผลเป็นที่เรียบร้อย เป็นหุ้นชำระแล้วปัจจุบัน 8,882,530,974 หุ้นและทุนชำระแล้วปัจจุบัน 2,220,632,743.50 บาท) - อนุมัติการปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริษัท จาก 10 คน เป็น 12 คน เพื่อให้องค์คณะมีความหลากหลาย ในด้านทักษะวิชาชีพและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพิ่มมากขึ้น
- อนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ เพื่อให้ครอบคลุมและรองรับการขยายธุรกิจที่เพิ่มขึ้น
- ข้อบังคับของบริษัทฯ ข้อ 45. เรื่อง ตราประทับของบริษัทฯ
บริษัทฯ ได้ร่วมลงนามในสัญญาโครงการก่อสร้างระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar PV Rooftop) กับ บริษัท โลหะกิจรุ่งเจริญทรัพย์ จำกัด ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 4.68 เมกะวัตต์
บริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท ครั้งที่ 1/2562 จำนวนไม่เกิน 2,500,000,000 บาท แบ่งเป็นจำนวนที่เสนอขาย 2,000,000,000 บาท และหุ้นกู้สำรองเพิ่มเติมอีก 500,000,000 บาท อายุ 2 ปี 9 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2565 มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ ร้อยละ 4.50 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุ หุ้นกู้โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้เพื่อใช้ในการชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนตุลาคม 2562 และ/หรือ เพื่อใช้รองรับการขยายธุรกิจของบริษัท และ/หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
บริษัท กันกุล พาวเวอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (“GPD”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้ร่วมลงนามสัญญากับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) โดยดำเนินการจัดซื้อพร้อมติดตั้ง ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงาน แสงอาทิตย์ชนิดติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) กำลังการผลิตติดตั้งรวมไม่น้อยกว่า 580 กิโลวัตต์ (kW) และ ระบบกักเก็บพลังงาน Battery Energy Storage System (BESS) บนพื้นที่สำนักงานกลาง กฟผ. ประมาณ 300 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่อาคารประมาณ 350,000 ตารางเมตร และเป็นส่วนสำนักงานประมาณ 200,000 ตารางเมตร ให้เป็นโครงการ Smart City ตามนโยบายพลังงาน 4.0 คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 48,501,458.44 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
บริษัท โซลาร์ เอนเนอร์ยี่ โซไซตี้ จำกัด (“SES”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้ร่วมลงนามในสัญญาโครงการก่อสร้างระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar PV Rooftop) กับ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (HOMEPRO) เพื่อใช้ภายในห้างสรรพสินค้า จำนวน 18 สาขา ทั่วประเทศ กำลังติดตั้งรวม 8.29 เมกะวัตต์ อายุสัญญา 15 ปี
บริษัท กันกุล พาวเวอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (“GPD”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัทฯ ได้ร่วมลงนามสัญญากับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จ้างเหมาปรับปรุงประสิทธิภาพระบบควบคุม สถานีไฟฟ้าด้วยคอมพิวเตอร์ (CSCS) ระยะที่ 3 จำนวน 8 สถานีไฟฟ้า มูลค่างาน 144.4 ล้านบาท
กิจการร่วมค้า “คอนซอร์เตียม จีพีดี แอนด์ เอฟอีซี” ได้ลงนามในหนังสือยืนยันการจัดจ้างและจ้างก่อสร้างสถานีไฟฟ้าสีคิ้ว 2 จังหวัดนครราชสีมา งานจ้างก่อสร้างสถานีไฟฟ้าสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา และสถานีไฟฟ้าศรีสะเกษ 2 จังหวัดศรีสะเกษ จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มูลค่าสัญญาก่อสร้างรวม 501,500,000.00 บาท
ในเดือนธันวาคม 2562 กิจการร่วมค้า “คอนซอร์เตียม เอสเควาย แอนด์ เอฟอีซี (บริษัท สี่แสงการโยธา (1979) จำกัด และบริษัท ฟิวเจอร์ อีเล็คทริคอล คอนโทรล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินเพื่อรองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียน โครงการพื้นที่ชั้นในระยะทาง 11.7 กิโลเมตร คิดเป็นมูลค่าโครงการ 3,114 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
กิจการร่วมค้า “คอนซอร์เตียม เอสเควาย แอนด์ เอฟอีซี (บริษัท สี่แสงการโยธา (1979) จำกัด และบริษัท ฟิวเจอร์ อีเล็คทริคอล คอนโทรล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินเพื่อรองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียน โครงการพื้นที่ชั้นในระยะทาง 11.7 กิโลเมตร คิดเป็นมูลค่าโครงการ 3,114 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
2561
บริษัทฯ เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใน Kenyir Gunkul Solar Sdn Bhd ประเทศมาเลเซีย โดยถือหุ้นสามัญในสัดส่วนร้อยละ 49 และต่อมาได้เข้าถือสัดส่วนมูลค่าการลงทุนในหุ้นบุริมสิทธ์เพื่อรับผลตอบแทนในรูปเงินปันผล ร้อยละ 70
บริษัท กรีโนเวชั่น เพาเวอร์ จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้า พลังงานลม โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียนและชําระแล้ว ได้ดําเนินการจําหน่าย ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (“COD”) ของโครงการโรงไฟฟ้าสราญลมวินด์ฟาร์ม ตั้งอยู่ที่ตําบลห้วยบง อําเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา มีขนาดกําลังการผลิตรวม 60 เมกะวัตต์และเป็นโครงการที่ภาครัฐ ให้การสนับสนุนโดยให้ ส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) ในอัตรา 3.50 บาท ต่อกิโลวัตต์เป็นเวลา 10 ปีนับจากวันที่เริ่มดําเนินการ จําหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์
ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จํากัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2561 เมื่อวันอังคารที่ 10 เมษายน 2561 ได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นสามัญคืน (Treasury Stock) เพื่อเป็นการบริหาร สภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุด และส่งสัญญาณแก่ผู้ลงทุนถึงสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง ของบริษัท โดยวงเงินสูงสุดที่ใช้ในการซื้อหุ้นคืน ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท จํานวนหุ้นที่จะซื้อคืนสูงสุด ไม่เกิน 300,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท จํานวนหุ้นที่จะซื้อคืน คิดเป็นร้อยละ 4.04 ของหุ้นที่จําหน่าย ได้แล้วทั้งหมด กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่่25 เมษายน 2561 ถึง วันที่ 24 ตุลาคม 2561 ซึ่งจำนวนหุ้น ที่บริษัทฯ ซื้อคืนในโครงการซื้อหุ้นคืนครั้งนี้ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 93,475,100 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 1.26 ของจำนวนหุ้นที่จําหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ รวมเป็นมูลค่ารวมของหุ้นที่ซื้อคืนทั้งสิ้นเท่ากับ 304,674,256.00 บาท
ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 มีมติอนุมัติดังนี้
- อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ รวมจำนวน 513,246,748 หุ้น หรือ 128,311,687 บาท โดยเป็นหุ้น ในส่วนที่ไม่สามารถจัดสรรเพื่อจ่ายหุ้นปันผลได้ตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 จำนวน 6,421 หุ้น หรือ 1,605.25 บาท และในส่วนที่คงเหลือจากการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ จำนวน 513,240,327 หุ้น หรือ 128,310,081.75 บาท ดังนั้นจากหุ้นจดทะเบียนเดิม 7,931,868,241 หุ้น หรือ ทุนจดทะเบียนปัจจุบันเดิม 1,982,967,060.25 บาท มูลค่า หุ้นละ 0.25 บาท เป็นหุ้นจดทะเบียนใหม่ 7,418,621,493 หุ้น หรือ ทุนจดทะเบียนใหม่เท่ากับ 1,854,655,373.25 บาท มูลค่าหุ้นละ 0.25 บาท
- อนุมัติการปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริษัท จาก 9 คน เป็น 10 คน เพื่อให้องค์คณะมีความหลากหลายในด้านทักษะวิชาชีพและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพิ่มมากขึ้น
- อนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของบริษัทฯ หมวดที่ 4 “การประชุมผู้ถือหุ้น” ข้อ 24.
บริษัท โคราชวินด์เอ็นเนอร์ยี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ประกอบธุรกิจ โรงไฟฟ้าพลังงานลมโดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว ได้ดำเนินการ จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (“COD”) ของโครงการ มิตรภาพวินด์ฟาร์ม ที่ตั้งอยู่ที่ ตำบลหนองน้ำใส อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา มีขนาดกำลังการผลิตรวม 50 เมกะวัตต์ และเป็นโครงการที่ภาครัฐให้การสนับสนุนโดยให้ ส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) ในอัตรา 3.50 บาทต่อกิโลวัตต์ เป็นเวลา 10 ปีนับจากวันที่เริ่มดำเนินการ จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์
- อนุมัติให้ บริษัท กันกุล พาวเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (“GPD”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด เข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญเดิมของ บริษัท ฟิวเจอร์ อีเล็คทริคอล คอนโทรล จำกัด (“FEC”) จำนวน 10,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 100.00 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10.00 บาท โดยเป็นทุนที่ชำระแล้ว 47,500,000.00 บาท จากผู้ถือหุ้นเดิมของ FEC ในมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 650,000,000.00 บาท
- อนุมัติการแก้ไขข้อบังคับ ข้อ 45. เรื่อง ตราประทับของบริษัท
บริษัทฯ ได้รับงานติดตั้งโซลาร์รูฟให้กับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ในรูปแบบสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่มีมูลค่าโครงการประมาณ 1,400 ล้านบาท โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้ลงทุนและดูแลระบบตลอดอายุสัญญาระยะเวลา 15 ปี โดยจะทำการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ทั้งหมด 120,000 แผ่น บนหลังคาของโรงงาน CPF จำนวน 34 แห่ง รวมเป็นพื้นที่ราว 230,000 ตารางเมตร หรือเทียบได้กับโรงไฟฟ้าขนาด 40 เมกะวัตต์
โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เซนได โอคุระ ที่ตั้งอยู่ที่เมืองเซนได มิยางิ ประเทศญี่ปุ่น มีขนาดกำลังการผลิตรวม 31.75 เมกะวัตต์ (38.10 เมกะวัตต์ติดตั้ง) และเป็นโครงการที่ผลิตและ จำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับ Tohoku Electric Power Co., Inc. (“Tohoku Electric”) เป็นระยะ เวลา 20 ปี ในอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ feed-in tariff (FIT) หน่วยละ 36 เยน นับจากวันที่เริ่มดำเนินการจำหน่าย ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ได้ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (“COD”) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
2560
ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 มีมติอนุมัติดังนี้
- อนุมัติการปรับสิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งที่ 2 สำหรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 1 (GUNKUL-W) จากอัตราใช้สิทธิ 1 หน่วย : 4.8 หุ้นสามัญ เป็น 1 หน่วย : 5.6 หุ้นสามัญ และปรับราคาใช้สิทธิจาก 5.625 บาทต่อหุ้น เป็น 4.821 บาทต่อหุ้น
- อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผล และเพื่อรองรับการปรับสิทธิครั้งที่ 2 สำหรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 1 (GUNKUL-W) จากทุนจดทะเบียนหลังการปรับมูลค่าหุ้นจำนวน 1,699,685,996.75 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 1,982,967,060.25 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 1,133,124,254 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท
- อนุมัติการเพิ่มวงเงินการออกและเสนอขายหุ้นกู้อีกจำนวน 3,000,000,000 บาท ดังนั้นจากวงเงินเดิมไม่เกิน 6,000,000,000 บาท ปรับเป็น วงเงินใหม่ไม่เกิน 9,000,000,000 อายุไม่เกิน 7 ปี
บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท กันกุล โซลาร์ พาวเวอร์ 6 จำกัด (“GSP-6”) เพื่อดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อจำหน่ายให้กับหน่วยงานภาครัฐ โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียน 100,000,000 บาท (จดทะเบียนชำระบัญชีแล้ว)
บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท กันกุล โซลาร์ พาวเวอร์ จำกัด (“GSP”) เพื่อดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อจำหน่ายให้กับหน่วยงานภาครัฐ โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียน 560,999,100 บาท (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 599,998,800 บาท และบริษัทฯ มีสัดส่วนการถือครองหุ้นร้อยละ 99.99)
บริษัทฯ ได้จดทะเบียนเข้าถือหุ้นบุริมสิทธิ์ใน บริษัท บีเอ็มพี โซล่าร์ จำกัด (“BMPS”) จำนวน 48,000 หุ้น โดยบริษัทฯ มีสิทธิได้รับปันผลจากการดำเนินงาน และสิทธิในการออกเสียงในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ซึ่งโรงไฟฟ้าของบริษัทดังกล่าวตั้งอยู่ที่ ตำบลท่าเกวียน อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ขนาดกำลังการผลิต 8.0 เมกะวัตต์ โดยได้รับอัตรารับซื้อไฟแบบ Feed-in-Tariff (FiT) หน่วยละ 5.66 บาท เป็นระยะเวลา 25 ปี บริษัทดังกล่าวเริ่มเปิดจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2559 (ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 980,100 บาท และบริษัทฯ ถือหุ้นจำนวน 48,010 หุ้น ในสัดส่วนร้อยละ 48.98)
ได้มีการเข้าร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่าง บริษัท บีจี เอ็นเนอร์ยี่ โซลูชั่น จำกัด และ บริษัท กันกุล พาวเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เพื่อดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) สำหรับใช้เอง ณ โรงงาน อยุธยากล๊าส อินดัสทรี ขนาด 4.84 เมกะวัตต์
บริษัทฯ ได้เข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มใน บริษัท กันกุล แอลอีดีไลท์ติ้ง จำกัด (ชื่อใหม่:บริษัท กันกุล เอ็นเนอร์จี โซลูชั่น แอนด์ ไลท์ติ้ง จำกัด) จากผู้ถือหุ้นปัจจุบันเป็นจำนวนรวม 99,999 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 9.99 ของทุนจดทะเบียนปัจจุบัน รวมถือหุ้นทั้งหมด 999,998 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด(ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 100,000,000.00 บาท)
บริษัทฯ ได้รับการจ้างงานจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สำหรับการก่อสร้างเคเบิลใต้น้ำระบบ 33 KV ไปยังเกาะพระทอง จ.พังงา โดยกำหนดระยะเวลาก่อสร้างนับจากวันลงนามในสัญญา 450 วัน
เป็นวันที่ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 1 (GUNKUL-W) ที่คงเหลือจากการจำหน่าย พ้นสภาพเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
2559
ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2559 มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 41,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้แก่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) อันเป็นการเสนอขายหุ้นต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ในราคาหุ้นละ 22.84 บาทต่อหุ้น
ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 มีมติอนุมัติดังนี้
- อนุมัติการเปลี่ยนแปลงแก้ไขมูลค่าที่ตราไว้ต่อหุ้นของบริษัทฯ จาก 1.00 บาทต่อหุ้น เป็น 0.25 บาทต่อหุ้น
- อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผล และเพื่อรองรับการปรับสิทธิใบสําคัญ แสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 1 (GUNKUL-W) จากทุนจดทะเบียนหลังการปรับมูลค่าหุ้นจํานวน 1,416,405,589.00 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จํานวน 1,699,686,359.00 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่ จํานวน 1,133,123,080 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท
- อนุมัติการปรับสิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 1 (GUNKUL-W) จากอัตราใช้สิทธิ 1 หน่วย: 1 หุ้นสามัญ เป็น 1 หน่วย: 4.8 หุ้นสามัญ และปรับราคาใช้สิทธิจาก 27.00 บาท ต่อหุ้นเป็น 5.625 บาท ต่อหุ้น
- อนุมัติการเพิ่มวงเงินการออกและเสนอขายหุ้นกู้อีกจำนวน 2,000 ล้านบาท ดังนั้นจากวงเงินเดิมไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ปรับเป็น วงเงินใหม่ไม่เกิน 3,000 ล้านบาท อายุไม่เกิน 7 ปี
บริษัทฯ ได้ดำเนินการจดทะเบียนยื่นเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้กับกระทรวงพาณิชย์ จากเดิม 1 บาท เป็น 0.25 บาท
บริษัทฯได้แจ้งสารสนเทศการจัดตั้งบริษัท กันกุล ไบโอเอนเนอร์ยี่ จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจ การผลิตวัตถุดิบสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลโดยบริษัทฯถือหุ้นในสัดส่วน ร้อยละ 99.94 ของทุนจดทะเบียน 500,000 บาท (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 2,000,000 บาท)
(21 ตุลาคม2562 บริษัท กันกุล ไบโอเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท กันกุล อินฟินิท กรุ๊ป) เพื่อรองรับ การขยายธุรกิจให้เช่า ให้เช่าช่วงและจัดการซึ่งทรัพย์สินธุรกิจผลิต และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน หรือพลังงานอื่นทุกประการ รวมถึงธุรกิจโรงไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายให้กับหน่วยงานเอกชน และหน่วนงานรัฐ)
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 6/2559 มีมติอนุมัติให้ Gunkul International (Mauritius) (“GIM”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าทำรายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ GD Utsunomiya(เปลี่ยนชื่อเป็น“GD Solar Utsunomiya Godo Kaisha “GK Utsunomiya”) (ตั้งอยู่เมืองอุทสึโนะมิยะ จังหวัดโทชิงิ ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 66.78 เมกะวัตต์ (72.80 เมกะวัตต์ติดตั้ง) โดยผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับ Tokyo Electric Power Company (“TEPCO”) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับสัมปทานในการขายไฟฟ้าให้แก่ TEPCO เป็นระยะเวลา 20 ปี ในอัตรารับซื้อไฟฟ้า แบบ feed-in tariff (FIT) หน่วยละ 36 เยน
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2559 มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์ ใน บริษัท บีเอ็มพีโซล่าร์ จำกัด (“BMPS”) ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิต 8.0 เมกะวัตต์จำนวน 48,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 48.98 ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วจำนวนรวม 98,000 หุ้น (ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 50,000 หุ้น และหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 48,000 หุ้น) บริษัทฯ มีสิทธิ ได้รับปันผลจากการดำเนินงานและสิทธิในการออกเสียงในสัดส่วนร้อยละ 99.99 โดยโรงไฟฟ้าของบริษัทดังกล่าว ตั้งอยู่ที่ ตำบลท่าเกวียน อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ได้รับอัตรารับซื้อไฟแบบ Feed-in-Tariff (FiT) หน่วยละ 5.66 บาท เป็นระยะเวลา 5 ปี (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 980,100 บาท และบริษัทฯ มีสัดส่วนการ ถือครองหุ้นร้อยละ 48.98)
ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2559 มีมติอนุมัติดังนี้
- อนุมัติให้ Gunkul International (Mauritius) (“GIM”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าทำรายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ใน East Japan Solar 13 Godo Kaisha (“GK Iwakuni”) เมืองอิวาคุนิจังหวัดยามางุจิ ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิตของโครงการตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 75.0 เมกะวัตต์ (ขนาดกำลังการผลิต ติดตั้ง 90.0 เมกะวัตต์) ซึ่งได้รับสัมปทานในการจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ Chugoku Electric Power เป็นระยะเวลา 20 ปี ในอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ Feed-in Tariff (FiT) หน่วยละ 32 เยน
- อนุมัติให้เพิ่มวงเงินการออกและเสนอขายหุ้นกู้อีกจำนวน 3,000 ล้านบาท ดังนั้นจากวงเงินเดิมไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ปรับเป็น วงเงินใหม่ไม่เกิน 6,000 ล้านบาท อายุไม่เกิน 7 ปี
2558
บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท โคราชวินด์เอ็นเนอร์ยี จำกัด (“KWE”) จาก บริษัท ควอนติตัส เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (“QE”) ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมเพื่อจำหน่าย ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำนวน 50 เมกะวัตต์ จำนวน 9,998 หุ้นซึ่งคิดเป็นร้อยละ 99.98 ของจำนวน หุ้นจดทะเบียนทั้งหมด 10,000 หุ้น (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 1,107,000,000 บาท และบริษัทฯ มีสัดส่วนการ ถือครองหุ้นร้อยละ 99.99)
บริษัท พัฒนาพลังงานลม จำกัด (“WED”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้เข้าทำรายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม มูลค่ารวมของโครงการประมาณ 6,145,721,100 บาท โดย WED เป็นผู้ได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ประเภทโรงไฟฟ้ากังหันลมจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ขนาด 50 เมกะวัตต์ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ขนาด 8+2 เมกะวัตต์ ในระบบ Adder 3.50 บาท ระยะเวลา 10 ปี
บริษัทฯ ได้แจ้งสารสนเทศการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ของ บริษัท กรีโนเวชั่น เพาเวอร์ จำกัด โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่าง GNP กับ กฟผ. ตั้งอยู่ที่ ตำบลห้วยบง อำเภอ ด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา คาดว่าจะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จ และจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ได้ ภายใน ไตรมาสที่ 1 ปี 2560
บริษัทฯ ได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2558 ในเรื่องดังต่อไปนี้
- ให้สัตยาบันการเข้าทำรายการการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมของ บริษัท กรีโนเวชั่น เพาเวอร์ จำกัด ขนาด 60 เมกะวัตต์
- ให้สัตยาบันการเข้าทำรายการการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Sendai Okura Mega Solar Godo Kaisha (“GK Sendai”) (เปลี่ยนชื่อเป็น “Sendai Okura GD Daiichi Godo Kaisha”) ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 31.75 เมกะวัตต์
- อนุมัติการเข้าทำรายการการเข้าซื้อหุ้นใน บริษัท อินฟินิท อัลเทอร์เนทีฟ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (“IAE”) สัดส่วน ร้อยละ 67 ซึ่งถือหุ้นอยู่ใน บริษัท รางเงิน โซลูชั่น จำกัด (“RNS”) ที่ได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และการลงทุนในโครงการดังกล่าว ขนาด 87 เมกะวัตต์(ปัจจุบัน IAE มีทุน จดทะเบียน1,564,000,000 บาท และ RNS มีทุนจดทะเบียน 1,355,000,000 บาท)
- อนุมัติการเข้าทำรายการการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Kimitsu Okura Mega Solar Godo Kaishi (“GK Kimitsu”) (เปลี่ยนชื่อเป็น Kimitsu Mega Solar Godo Kaisha”) ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 33.50 เมกะวัตต์ โดยผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับ Tokyo Electric Power Company (“TEPCO”) ประเทศญี่ปุ่น
- อนุมัติการจัดหาแหล่งเงินทุนโดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯตามสัดส่วนจำนวนหุ้น ที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Right Offering) และออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจดทะเบียน ของบริษัทฯ ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ (Warrant) โดยจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อรองรับ Right Offering และ Warrant ในจำนวนไม่เกิน 274,981,118 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ดังนี้
- จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 183,320,745 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้แก่ ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (RightsOffering) และในอัตราจัดสรร 6 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ โดยเศษของหุ้นให้ปัดทิ้ง ทั้งนี้ราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมดังกล่าวเท่ากับ 22 บาท ต่อหุ้น
ในกรณีที่มีหุ้นสามัญเพิ่มทุนเหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนในรอบแรกแล้วบริษัทฯจะจัดสรร หุ้นส่วนที่เหลือให้แก่ผู้ถือหุ้นซึ่งแสดงความจำนงจองซื้อเกินสัดส่วนตามสัดส่วนการถือหุ้นอีกหลายรอบจนกว่า จะหมด ยกเว้นกรณีไม่สามารถจัดสรรได้เนื่องจากเป็นเศษหุ้น หรือไม่มีผู้ถือหุ้นรายใดประสงค์ที่จะจองซื้อหุ้น ดังกล่าวอีกต่อไป - จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 91,660,373 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อ รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิฯ (GUNKUL-W) ที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯซึ่งใช้สิทธิ ซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) ตามข้อ (1) ในอัตราส่วน หุ้นสามัญใหม่ซึ่งจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 2 หุ้นต่อใบสำคัญแสดงสิทธิฯ 1 หน่วย
- จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 183,320,745 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้แก่ ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (RightsOffering) และในอัตราจัดสรร 6 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ โดยเศษของหุ้นให้ปัดทิ้ง ทั้งนี้ราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมดังกล่าวเท่ากับ 22 บาท ต่อหุ้น
ได้แจ้งสารสนเทศการจัดตั้งบริษัท จีโอ ไบโอเอนเนอร์ยี่ จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจ ด้านพลังงานไฟฟ้าจากชีวมวล โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 74.90 และ บริษัท เอาท์โกรว์ เอนเนอร์ยี่ คอนซัลท์ จำกัด จำกัดถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 25.10 ของทุนจดทะเบียน 34,300,000 บาท (ปัจจุบัน ทุนจดทะเบียน 34,300,000 บาท)
บริษัทดังกล่าว ได้เข้าถือหุ้นในบริษัท เอาท์โกร เอ จำกัด บริษัท เอาท์โกร บี จำกัด บริษัท เอาท์โกร ดี จำกัด บริษัท เอาท์โกร อี จำกัด บริษัท เอาท์โกร วู้ด ซัพพลาย เอ จำกัด และ บริษัท เอาท์โกร วู้ด ซัพพลาย บี จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานไฟฟ้าจากชีวมวล
บริษัทฯ ได้เข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญใน บริษัท กันกุล แอลอีดีไลท์ติ้ง จำกัด (ชื่อใหม่: บริษัท กันกุล เอ็นเนอร์จีโซลูชั่น แอนด์ไลท์ติ้ง) จากผู้ถือหุ้นรายเดิม เป็นจำนวนรวม 150,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15 ของทุนจดทะเบียน รวมบริษัทฯ ถือหุ้นทั้งหมด 899,999 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 90 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 100,000,000.00 บาท และบริษัทฯ มีสัดส่วนการถือหุ้น ร้อยละ 99.99)
บริษัทฯได้เข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญในบริษัท อีโค่ ไทยเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด จำนวน 255,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 51 ของหุ้นจดทะเบียน 500,000 หุ้น หรือ ทุนจดทะเบียน 50,000,000 บาท (ปัจจุบันมีทุน จดทะเบียน 76,500,000.00 บาท และบริษัทฯ มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 51)
2557
บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท กรีโนเวชั่น เพาเวอร์ จำกัด จาก บริษัท อิมแพค เอนเนอยี่ เอเชีย ลิมิเต็ด ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลม ขนาด 60 เมกะวัตต์ โดยเป็นคู่สัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยบริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 199,998 หุ้น ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นจดทะเบียนทั้งหมด 200,000 หุ้น ทุนจดทะเบียน 2,000,00 บาท (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 1,485,000,000 บาท โดยบริษัทฯ ยังคงมีสัดส่วนการถือครองหุ้น ร้อยละ 99.99)
บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท กันกุล แอลอีดีไลท์ติ้ง จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ส่องสว่างประเภทหลอดไฟแอลอีดี (LED) โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 74.49 ของทุนจดทะเบียน 10,000,000 บาท
(21 กุมภาพันธ์ 2561 บริษัท กันกุล แอลอีดีไลท์ติ้ง จำกัด เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท กันกุล เอ็นเนอร์จีโซลูชั่น แอนด์ไลท์ติ้ง จำกัด โดยขยายวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการงานด้านระบบไฟฟ้าอย่างครบวงจร) (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 100,000,000 บาท และบริษัทฯ มีสัดส่วนการถือครองหุ้นร้อยละ 99.99)
บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วนเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 31,563,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 30 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด 1,052,100,000 หุ้น ของบริษัท พัฒนาพลังงานลม จำกัด จาก บริษัท อิมแพค เอนเนอยี่ เอเชีย ลิมิเต็ด ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานลม รวมคิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น ทั้งหมดร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียน 1,052,000,000 บาท (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 1,575,000,000 บาท และบริษัทฯ มีสัดส่วนการถือครองหุ้นร้อยละ 99.99)
บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท กันกุล โซลาร์คอมมูนิตี้ จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจ ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนและรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้า ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 20,000,000.00 บาท และบริษัทฯ มีสัดส่วนการถือครอง หุ้นร้อยละ 99.99)
Gunkul International (Mauritius) (“GIM”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้เข้าลงทุนใน Sendai Okura Mega Solar Godo Kaisha (“GK Sendai”) ซึ่งดำเนินธุรกิจพัฒนาและก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงาน แสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิต 31.75 เมกะวัตต์ (38.10 เมกะวัตต์ติดตั้ง) ที่จังหวัดมิยากิ ประเทศญี่ปุ่น และ เป็นผู้ผลิต และจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับ Tohoku Electric Power Co., Inc. (“Tohoku Electric”) ประเทศญี่ปุ่น โดยได้รับสัมปทานในการขายไฟฟ้าให้แก่ Tohoku Electric เป็นระยะเวลา 20 ปี ในอัตรารับซื้อไฟฟ้า แบบ feed-in tariff (FIT) หน่วยละ 36 เยน โดยบริษัทฯ เข้าลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 100 (เปลี่ยนชื่อเป็น “Sendai Okura GD Daiichi GodoKaisha”)
2556
บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัท เอ็นเค เพาวเวอร์โซล่า จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและ จำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยเป็นคู่สัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งมีสัญญา ซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 1 สัญญา ขนาด 1 เมกะวัตต์คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 49.00 โดยบริษัทฯ ถือหุ้น ใน บริษัท เอ็นเค เพาวเวอร์โซล่า จำกัด เป็นหุ้นสามัญจำนวน 9,799 หุ้น และเป็นหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 2,940 หุ้น ซึ่งมีสิทธิในการออกเสียงสำหรับหุ้นสามัญ 1 หุ้นเท่ากับ 1 เสียง และ หุ้นบุริมสิทธิ์ 1 หุ้นเท่ากับ 20 เสียง (ปัจจุบัน มีทุนจดทะเบียน 2,600,000 บาท ทั้งนี้ในปี 2559 บริษัทฯ ได้รับโอนหุ้นสามัญจากผู้ถือหุ้นรายเดิมมาเป็นของ บริษัทฯ อีกจำนวน 13,259 หุ้น รวมเป็นหุ้นสามัญที่ถือครองจำนวน 23,058 หุ้น และหุ้นบุริมสิทธิ์จำนวน 2,940 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 99.99)
บริษัทฯ ได้จำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท กันกุล พาวเวอร์เจน จำกัด ให้กับ บริษัท ชูบุ อีเล็คทริค พาวเวอร์ เจ็ม บี.วี. ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 4,860,800 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 49.00 ของทุน จดทะเบียน 992,000,000 บาท (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 992,000,000 บาท และบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน ร้อยละ 51.00)
จัดตั้ง บริษัท สยาม วินด์ เอนเนอร์ยี่ ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า จากพลังงานทดแทน โดยมุ่งเน้นด้านพลังงานลม โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 40.00 ของทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท บริษัทดังกล่าวได้จดเลิกบริษัทเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2560 และเสร็จสิ้นการชำระบัญชีเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2560)
บริษัทฯ ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท Gunkul International (Mauritius) {“GIM”) ในต่างประเทศ ณ สาธารณรัฐ มอริเชียส โดยบริษัทฯ มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียน 12,000 ดอลลาร์สหรัฐ และจัดตั้ง Gunkul International (Singapore) Pte.Ltd. (“GIS”) และ Gunkul Myanmar Power (Hlawga) Pte.Ltd. (“GMP”) ณ ประเทศสิงคโปร์โดย GIM มีสัดส่วนการถือหุ้นใน GIS ร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียน 28,000 ดอลล่าร์สิงคโปร์ และ GIS มีสัดส่วนการถือหุ้นใน GMP ร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียน 14,000 ดอลลาร์สิงคโปร์โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อขยายการลงทุนในบริษัทต่างประเทศ (GIS จดเลิกบริษัทเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2562 และ GMP เปลี่ยนชื่อ บริษัทเป็น Gunkul International Investment (Singapore) Pte. Ltd. (“GII”) โดย GIM ถือหุ้นตรงใน GII) (ปัจจุบัน GIM มีทุนจดทะเบียน 134,825,624 ดอลลาร์สหรัฐและ GII มีทุนจดทะเบียน 284,829 ดอลล่าร์สิงคโปร์)
บริษัท กันกุล พาวเวอร์เจน จำกัด ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นบริษัท กันกุลชูบุพาวเวอร์เจน จำกัด
บริษัทฯได้จัดตั้งบริษัทย่อยบริษัท สยาม กันกุล โซลาร์เอนเนอร์ยี จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจ ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าที่ติดตั้งบนหลังคา ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 100 บาท (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 40,900,000.00 บาท และบริษัทฯ มีสัดส่วนการถือครองหุ้นร้อยละ 99.99)
บริษัทฯ ได้จัดตั้ง บริษัท กันกุล โซลาร์รูฟ 1 จำกัด (GSR-1) บริษัท กันกุล โซลาร์รูฟ 2 จำกัด (GSR-2) บริษัท กันกุลโซลาร์พาวเวอร์1 จำกัด (GSP-1) บริษัท กันกุลโซลาร์พาวเวอร์ 2 จำกัด (GSP-2) บริษัท ไบร์ท กรีน พาวเวอร์ จำกัด (BGP) และ บริษัท โซลาร์เอนเนอร์ยี่ โซไซตี้ จำกัด (SES) เพื่อดำเนินธุรกิจ ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าที่ติดตั้งบนหลังคา โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน ร้อยละ 99.97 ของ ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท
BGP ได้ขยายธุรกิจลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจพลังงานทดแทน
บริษัท กันกุล โซลาร์รูฟ 2 จำกัด (“GSR-2”) ได้เปลี่ยนชื่อ เป็นบริษัท กันกุล เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด (“GTRC”) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการทางการศึกษา การจัดการสัมมนา การจัดการฝึกอบรม และอื่นใดที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา (ปัจจุบัน GSR-1 มีทุนจดทะเบียน 21,000,000 บาท, GTRC มีทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท, GSP-1 มีทุน จดทะเบียน 100,000,000 บาท, GSP-2 มีทุนจดทะเบียน 100,000,000 บาท, BGP มีทุนจดทะเบียน 190,000,000 บาท และ SES มีทุนจดทะเบียน 500,000,000 บาท โดยบริษัทฯ มีสัดส่วนการถือครองหุ้นใน GSR-1, GSP-1, GSP-2, BGP, SES ในสัดส่วนร้อยละ 99.99 และใน GTRC ร้อยละ 99.97)
บริษัทฯ ได้จัดตั้ง บริษัท กันกุล พาวเวอร์ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าที่ติดตั้งบนหลังคา เพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้า นครหลวง รวมทั้งดำเนินธุรกิจรับก่อสร้างโรงไฟฟ้าและธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้าและระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้า โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99ของทุนจดทะเบียน 1,000,000บาท (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน300,000,000 บาท และบริษัทฯ มีสัดส่วนการถือครองหุ้นร้อยละ 99.99)
บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดตั้ง บริษัท ดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีนโซล่าร์รูฟ 1 จำกัด (WHA_GSR-1) บริษัท ดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีนโซล่าร์รูฟ 2 จำกัด (WHA_GSR-2) บริษัท ดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีน โซล่าร์รูฟ 3 จำกัด (WHA_GSR-3) บริษัท ดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีนโซล่าร์ รูฟ 4 จำกัด (WHA_GSR-4) บริษัท ดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีนโซล่าร์รูฟ 5 จำกัด (WHA_GSR-5) และ บริษัท ดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีนโซล่าร์รูฟ 6 จำกัด (WHA_GSR-6) โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร่วมในสัดส่วนร้อยละ 25.01 ของทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าที่ติดตั้งบนหลังคา เพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้านครหลวง (ปัจจุบัน WHA_GSR-1 มีทุนจดทะเบียน 11,500,000 บาท, WHA_GSR-3 มีทุนจดทะเบียน 14,500,000 บาท และ WHA_GSR-6 มีทุนจดทะเบียน 14,500,000 บาท โดยบริษัทฯ ยังคงมีสัดส่วนการถือครองหุ้นร้อยละ 25.01 ทั้งนี้ WHA_GSR-2, WHA_GSR-4 และ WHA_GSR-5 จดทะเบียนชำระบัญชีแล้ว)
บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดตั้ง บริษัท ดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีนโซล่าร์รูฟ 8 จำกัด บริษัท ดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีนโซล่าร์รูฟ 9 จำกัด บริษัท ดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีน โซล่าร์รูฟ 10 จำกัด บริษัท ดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีนโซล่าร์รูฟ 16 จำกัด และ บริษัท ดับบลิวเอชเอ กันกุลกรีนโซล่าร์รูฟ 17 จำกัด โดยบริษัทฯถือหุ้นร่วมในสัดส่วนร้อยละ 25.01 ของทุนจดทะเบียน 100,000 บาท ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าที่ติดตั้งบนหลังคา เพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้า ส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้านครหลวง (ปัจจุบัน WHA_GSR-17 มีทุนจดทะเบียน 16,000,000 บาท โดยบริษัทฯ ยังคงมีสัดส่วนการถือครองหุ้นร้อยละ 25.01 ทั้งนี้ WHA_GSR-8, WHA_GSR-9, WHA_GSR-10 และ WHA_ GSR-16 จดทะเบียนชำระบัญชีแล้ว)
2555
บริษัทฯได้จำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท จี-พาวเวอร์ ซอร์ซ จำกัด ให้กับบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) จำนวน 4,500,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 60.00 ของทุนจดทะเบียน 750,000,000 บาท (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 930,000,000 บาท และบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 40.00)
บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท พัฒนาพลังงานลม จำกัด จากบริษัท อิมแพค เอนเนอยี่ เอเชีย ลิมิเต็ด ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานลม โดยเป็นคู่สัญญาซื้อขายไฟฟ้า กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจำนวน1 สัญญา ขนาด 50 เมกะวัตต์และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำนวน 2 สัญญา ขนาด 8 เมกะวัตต์และ 2 เมกะวัตต์คิดเป็นจำนวนรวม 60 เมกะวัตต์ และได้รับสนับสนุนค่าไฟฟ้า ส่วนเพิ่ม (Adder) หน่วยละ 3.50 บาท โดยบริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 5,460,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน การถือหุ้นร้อยละ 70.00 ของทุนจดทะเบียน 78,000,000 บาท (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 1,575,000,000 บาท และบริษัทฯ ถือครองหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99)
2553
บริษัทฯ ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปจองซื้อหุ้น (Initial Public Offering) จำนวน 100,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25.00 ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด 400,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท โดยจำหน่ายในราคาหุ้นละ 5.40 บาท
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้เพิ่มหลักทรัพย์ GUNKUL เข้าเป็นหลักทรัพย์ใหม่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
หลักทรัพย์ GUNKUL ได้เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก (First Day Trade)
บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท จี-พาวเวอร์ ซอร์ซ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยเป็นคู่สัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 4 สัญญา คิดเป็นจำนวนรวม 26 เมกะวัตต์ เป็นระยะเวลา 25 ปี และได้รับสนับสนุนค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่ม (Adder) หน่วยละ 8.00 บาท เป็นระยะเวลา 10 ปี รวมทั้งโครงการดังกล่าวยังได้รับสิทธิประโยชน์การส่งเสริมการลงทุนจากสำนักคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (The Board of Investment “BOI”) โดยบริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 9,898 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 98.98 ของ ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 930,000,000 บาท และบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 40.00)
บริษัท กันกุล พาวเวอร์เจน จำกัด ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเพื่อผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 5 สัญญา ขนาดรวม 30.9 เมกะวัตต์ เป็นระยะเวลา 25 ปี ซึ่งโครงการได้รับประโยชน์จากการจำหน่ายไฟฟ้าด้วยการได้รับส่วนเพิ่มราคาในการรับซื้อไฟฟ้า (Adder) จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในราคา 8.00 บาทต่อหน่วย เป็นระยะเวลา 10 ปี รวมทั้งโครงการดังกล่าวยังได้รับสิทธิประโยชน์การส่งเสริมการลงทุนจากสำนักคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (The Board of Investment “BOI”)
2552
บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 300,000,000 บาท เป็น 400,000,000 บาท และเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญจากหุ้นละ 100 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท
จัดตั้งบริษัท กันกุล พาวเวอร์เจน จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 100,000,000 บาท เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 992,000,000 บาท และบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 51.00)
2536
จัดตั้งบริษัท เค.เอ็น.พี.ซัพพลาย จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 12,500,000 บาท และบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99)
2535
จัดตั้งบริษัท จี.เค.แอสเซ็มบลี้ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 2,000,000 บาท (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 200,000,000 บาท และบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99)
จัดตั้งบริษัท จี.เค.พาวเวอร์โปรดักส์ จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท เคอร์เน่ (ประเทศไทย) จำกัด) ด้วยทุนจดทะเบียน 2,600,000 บาท (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 100,000,000 บาท และบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99)
2525
จัดตั้งบริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 2,225,586,448 บาท และทุนชำระแล้ว 2,220,632,743.50 บาท)