บริษัทมีเจตนารมณ์ในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ท่ามกลางความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ การเปลี่ยนขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจโลก นโยบายทางภาษี ความมั่นคงด้านทรัพยากร ตลอดจนภัยธรรมชาติ ที่อาจส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ ซึ่งการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม มีจริยธรรม และมีการกํากับดูแลกิจการที่ดี สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงรวมถึงภาวะวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนให้บริษัทบรรลุเจตนารมณ์ดังกล่าว พร้อมกับสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม

การกำกับดูแลกิจการที่ดี

บริษัทดําเนินธุรกิจภายใต้หลักการกํากับดูแลกิจการที่ดี ด้วยความเป็นธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ ด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย ตามโครงสร้างการกำกับดูแลกิจการของบริษัท และได้จัดทําและประกาศใช้ “นโยบายการกํากับดูแลกิจการที่ดี” เพื่อเป็นแนวทางให้กับคณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการชุดย่อย ผู้บริหาร พนักงานทุกระดับ รวมถึงผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องทุกกลุ่ม ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ เป็นธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ และสอดคล้องตามจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ

ผลการดำเนินงานที่สำคัญปี 2567
บริษัทได้รับผลการประเมินโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies: CGR) ประจำปี 2567 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ให้เป็นบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับคะแนนอยู่ใน เกณฑ์ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) โดยมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 111 และคะแนนรายหมวดทุกหมวดอยู่ในเกณฑ์ “ดีเลิศ” ติดต่อกันเป็นปีที่ 8

การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน

บริษัทมุ่งมั่นที่จะไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือคอร์รัปชัน และผู้บริหารต้องเป็นแบบอย่างที่ดี พร้อมทั้งกำกับดูแลให้พนักงานทุกคนปฏิบัติตามมาตรการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชันอย่างเคร่งครัด รวมถึงกำหนดแนวทางในการดำเนินงานเชิงรุกในการต่อต้านการทุจริต บริษัทจึงจัดทำและประกาศนโยบายเรื่องต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันและการแจ้งเบาะแสหรือข้อร้องเรียน และสื่อสารให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มรับทราบ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติที่ดีในการไม่ให้เข้าไปมีส่วนร่วมในการทุจริตคอร์รัปชันทั้งทางตรงและทางอ้อม นอกจากนี้บริษัทยังการเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายการต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (Thai Private Sector Collective Action Against Corruption : CAC) เพื่อแสดงเจตนารมณ์ ความมุ่งมั่น ความพร้อม และประสิทธิภาพของบริษัทในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และป้องกันการทุจริตและคอร์รัปชันทุกรูปแบบ

ผลการดำเนินงานที่สำคัญปี 2567
จำนวนพนักงานที่ตอบรับนโยบายการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน
ร้อยละ 100
จำนวนพนักงานที่ได้รับการฝึกอบรมในหลักสูตรเกี่ยวกับจรรยาบรรณธุรกิจ และการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชัน
ร้อยละ 92.86
คะแนนการทดสอบความรู้เรื่องจรรยาบรรณธุรกิจ และการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน
ร้อยละ 87.30%
ไม่มี

กรณีข้อร้องเรียนเรื่องการฝ่าฝืนในด้านการไม่ปฎิบัติตามจรรยาบรรณธุรกิจ และการทุจริตและคอรัปชัน

การสื่อสารนโยบายการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันให้กับคู่ค้าหลัก (Critical Supplier Tier 1)
ร้อยละ 100

การจัดการความเสี่ยง

บริษัทและกลุ่มบริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพและบรรลุผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่กำหนด จึงจัดทำนโยบายบริหารความเสี่ยงองค์กร เป็นกรอบแนวปฏิบัติที่ดีในการบริหารความเสี่ยงภายในองค์กร ร่วมกับการตรวจสอบภายใน เพื่อให้การบริหารจัดการความเสี่ยงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันบริษัทมีการกำหนดแนวปฏิบัติการบริหารจัดการความเสี่ยงของบริษัท เป็นไปตามหลักการของ Enterprise Risk Management – Integrated Framework ซึ่งจัดทำโดย The Committee of Sponsoring Organizations of the Treadway Commission (COSO) ในการบริหารจัดการความเสี่ยง และมีการแต่งตั้งคณะทำงานบริหารความเสี่ยงของบริษัท ซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารจากทุกสายงาน เพื่อให้การจัดการความเสี่ยงครอบคลุมทุกด้าน ได้แก่ ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ (Strategic Risk) ความเสี่ยงด้านการปฏิบัติงาน (Operations Risk) ความเสี่ยงด้านการเงิน (Financial Risk) ความเสี่ยงด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย/กฎระเบียบ (Compliance Risk) ความเสี่ยงด้านความยั่งยืน (ESG Risk) และความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่ (Emerging Risk) เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายอย่างยั่งยืน

การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน

บริษัทนำแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนที่คำนึงถึงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมทั้งการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน มาบูรณาการในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้กระบวนการคัดเลือกสินค้าและบริการมีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ยังถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการจัดซื้อจัดจ้างที่บริษัทให้ความสำคัญ โดยได้จัดทำและประกาศนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างที่มุ่งสร้างความโปร่งใส ยุติธรรม และสามารถตรวจสอบได้ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าทางงบประมาณ การจัดสรรทรัพยากรที่ยั่งยืน และการบริหารจัดการความเสี่ยงคู่ค้า รวมถึงการสนับสนุนแนวทางต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน การส่งเสริมหลักจริยธรรมทางธุรกิจ และการสร้างความเข้าใจให้คู่ค้าทุกฝ่ายตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งพัฒนาคู่ค้าทุกกลุ่มให้สามารถดำเนินธุรกิจในห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน โดยมีแนวทางในการบริหารจัดการ ดังนี้

จรรยาบรรณทางธูรกิจของคู่ค้า
การคัดเลือกคู่ค้ารายใหม่
การประเมินความเสี่ยงคู่ค้า
การประเมินประสิทธิภาพคู่ค้า
การเสริมสร้างความสัมพันธ์กับคู่ค้า
การส่งเสริมการจัดซื้อจัดหาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

บริษัทได้จัดทำจรรยาบรรณทางธุรกิจของคู่ค้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการจัดหา จัดซื้อ และจัดจ้าง รวมถึงส่งเสริมให้คู่ค้าของบริษัทและกลุ่มบริษัทดำเนินธุรกิจตามหลักจริยธรรม เคารพสิทธิเสรีภาพและปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในการทำงาน รวมถึงความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม ซึ่งมีการสื่อสารและเปิดเผยให้คู่ค้าทุกรายสามารถเข้าถึงและรับทราบผ่านทาง เว็บไซต์ของบริษัท

นโยบาย และแนวปฏิบัติในการกำหนดระยะเวลาที่จะชำระเงินให้แก่คู่ค้า

นอกจากการสนับสนุนประเด็นด้านความยั่งยืน (ESG) แก่คู่ค้าแล้ว บริษัทยังสนับสนุนให้คู่ค้ามีสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อให้คู่ค้าสามารถดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนต่อไปได้ โดยกำหนดระยะเวลาการชำระเงินให้แก่คู่ค้า (Credit Term) อยู่ในช่วงระหว่าง 30 ถึง 120 วัน ระยะเวลาดังกล่าวจะพิจารณาตามประเภทของคู่ค้า ลักษณะการดำเนินงานตลอดจนปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ทั้งนี้ กำหนดระยะเวลาชำระเงินจะมีการตกลงร่วมกันกับคู่ค้ารายใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนการเข้าร่วมเป็นคู่ค้ากับบริษัท เพื่อให้เกิดความชัดเจน โปร่งใส และเป็นธรรมต่อคู่ค้าทุกรายที่ดำเนินธุรกิจกับบริษัท

ผลการดำเนินการปี 2567

บริษัทฯ มีระยะเวลาการชำระเงินจริงให้แก่คู่ค้าโดยเฉลี่ยในปี 2567 เท่ากับ 69 วัน

ผลการดำเนินงานที่สำคัญปี 2567

คู่ค้าที่ได้รับการประเมินคัดเลือกคู่ค้ารายใหม่ ครอบคลุมประเด็นด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (ESG)

ร้อยละ 100

คู่ค้ารายสำคัญที่เป็นคู่ค้าหลัก (Critical - Tier 1) และมีผลกระทบโดยตรงต่อบริษัท 22 ราย ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืน ครอบคลุมประเด็นด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (ESG)

ร้อยละ 100

มูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างในท้องถิ่น คิดเป็น

ร้อยละ 88.35

จากมูลค่าการสั่งซื้อทั้งหมด

การบริหารจัดการด้านภาษี

บริษัทมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโดยยึดมั่นในหลักคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์ และความโปร่งใส ซึ่งสอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยบริษัทตระหนักถึงความสำคัญในการบริหารจัดการภาษีอย่างมีความรับผิดชอบ และปฏิบัติตามกฎหมายด้านภาษีรวมถึงข้อบังคับที่เกี่ยวข้องในทุกประเทศที่บริษัทดำเนินธุรกิจ บริษัทมีการบริหารจัดการและประเมินความเสี่ยงในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาษีอย่างรอบคอบ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามนโยบายหรือแนวทางการบริหารภาษีของภาครัฐ พร้อมทั้งกำหนดนโยบายด้านภาษีเพื่อควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยยึดมั่นในการปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าว เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อบริษัทและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ทั้งนี้บริษัทได้วางแผนทิศทางและแนวทางการบริหารภาษีให้สอดคล้องกันในทุกกลุ่มบริษัท เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย